Law of transition to the Super-System
Mono – Bi – Poly
ธนะศักดิ์ พึ่งฮั้ว
บทความนี้เขียนเมื่อปี 2015
อะไรเอ่ย ของใช้ประจำที่ทุกบ้านน่าจะมี ต้องใช้ทุกวัน
กระดาษทิชชู่ เป็นหนึ่งในหลายคำตอบ
ไม่ว่าจะเป็น กระดาษชำระในห้องน้ำ (Bathroom Tissue), กระดาษเช็ดหน้า (Facial Tissue), กระดาษเช็ดปาก (Napkin) และ กระดาษเช็ดมือ (Hand Towel)
ไม่ว่ากัน หากบ้านเราใช้กระดาษมิชชู่ม้วนในหลายวาระ หรือโต๊อาหารหลายบ้านจะใช้กระดาษเช็ดหน้า มาเช็ดปาก แนวโน้มการพัฒนาจากอดีต เท่าที่ผมจำได้ มาจากกระดาษรีไซเคิลใส่สีชมพู มาเป็นกระดาษสีขาว หลายชั้น มีกลิ่น นุ่ม ระบบถูกพัฒนาดังนี้
Law of transition to the Super-System
จากระบบเดี่ยว กลายเป็นระบบคู่ อาจจะยังไม่เห็นภาพของ Poly System ผมจำไม่ได้ว่ามีกระดาษทิชชู่ 3 ชั้นเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้หรือไม่
ช่วงสิบปีที่ผ่านมา มีผลิตภัณฑ์ที่อยู่ใน Function เกิดขึ้นคือ Baby Wipe แรกๆเป็นผ้าเปียก ใช้กับเด็กทารก ปัจจุบันใช้กับผู้ใหญ่ เช็ดหน้า เครื่องสำอางค์และทำความสะอาดฆ่าเชื้อ เพิ่มเข้ามา และเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา มี กระดาษทิชชู่ อัดเม็ดเกิดขึ้น
Baby Wipe (Pictures Create by AI)
กระดาษทิชชู่อัดเม็ด (Pictures Create by AI)
การพัฒนาลักษณะนี้ มักจะถูกอธิบายว่าเป็นการพัฒนาที่ไม่ยาก กล่าวคือ เพิ่มทรัพยากรเข้าไปเรื่อยๆ จาก Mono System ไปสู่ Complex System
วิวัฒนาการของการแปลงไปสู่ Super System ยังมีรายละเอียดลึกลงไปอีกดังนี้
ภาพการพัฒนา Mono-Bi-Poly โดยองค์ประกอบที่เพิ่มขึ้น
ผมใช้ภาษาไทยง่ายๆดังนี้ครับ
Homogeneous เหมือนกัน
Bias คล้ายๆกัน
Heterogeneous ต่างกัน
Inverse ตรงกันข้าม
ช่องว่างๆ คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้อีกครับ
การพัฒนาโดยใช้วิวัฒนาการ Law of Transition to the Super-System ยังอธิบายลึกลงไปได้อีกคือ
“ทุก System ที่เกิดขึ้นใหม่ ส่วนประกอบในระบบ จะเริ่มรวมตัวกันเป็นบางส่วน ระบบจะเล็กกระชับ ใช้ทรัพยากรลดลง แต่เกิด Function ที่เป็นประโยชน์เพิ่มขึ้น
และจะกลายเป็น Mono System อีกครั้ง”
ใครเคยใช้กระดาษทิชชู่ซับเลือดจากบาดแผล ลองจินตนาการคล้ายๆกับว่า ผมเอา Baby Wipe ไปปั่น แล้วใช้งานโดยการพ่นสเปรย์ (ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ Spray พ่นแทนพลาสเตอร์ปิดแผลออกมาขายแล้ว เมื่อหลายปีที่ผ่านมา)
ผมกำลังบอกว่า มี “วิธีคิด” ครับ
Liquid Bandage (Pictures Create by AI)